บทที่ 6 ตอนที่ 6

“ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนนะ แต่เป็นพระญาติของกษัตริย์

เลแวนต้าเลยล่ะ ประเทศที่เธอเคยไปเที่ยวกับพี่ชัชตอนเด็กๆ ไง จำได้ไหม”

“เลแวนต้า...”

ช้องนางพึมพำออกมา ก่อนจะนึกถึงภาพหมู่บ้านชนบทบนภูเขาสีเขียวขจี

ที่นั่นสวยมาก และก็ยังจำได้ไม่ลืมว่าหลงใหลในความงดงามของเลแวนต้าแค่ไหน

“แต่ถึงนางจะชอบเลแวนต้ามาก แต่นางก็ไม่เคยคิดจะไปอยู่ที่นั่นนะคะ และที่สำคัญนางมีค่ามากกว่าจะไปเป็นตัวเลือกของผู้ชายคนไหนคะ”

“อย่าดื้อสิช้องนาง”

“นางไม่ได้ดื้อนะอาเกส แต่นางไม่ต้องการเป็นตัวเลือกของใครค่ะ”

“ก็คิดเสียว่าทำเพื่อวัฒนาดิลก ทำเพื่อเราทุกคน”

เกสราจงใจใช้คำว่าบุญคุณเป็นกับดักเพื่อให้หล่อนไม่มีทางเลือก

“ถ้าเธอยอมไปคัดเลือกเป็นเจ้าสาวของมหาเศรษฐีคนนั้น ฉันสัญญาว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อพาพี่ชัชไปบำบัดอาการติดสุราเรื้อรังตามที่เธอต้องการมาตลอด”

“ถ้าอาเกสทำแบบนั้น ข่าวก็จะต้องเล็ดลอดออกไป ชื่อเสียงของตระกูลก็จะต้องเสื่อมเสีย อาเกสยอมรับมันได้เหรอคะ”

หล่อนย้อนถามเพราะรู้ดีว่าเกสรารักชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลมากขนาดไหน

“อาจะใช้เงินส่วนตัวที่อามีเหลืออยู่ปิดข่าว”

หล่อนมองหน้าเกสรา มองหาความจริงใจของอาแท้ๆ ในใจเต็มไปด้วยความสับสนลังเล

“พ่อของเธอจะหายจากอาการติดสุราเรื้อรังหรือไม่นั้น มันอยู่ที่การตัดสินใจของเธอแล้วนะ ช้องนาง”

ช้องนางยังคงสับสนเหมือนเดิม หล่อนหรี่ตาแคบมองจอโทรศัพท์มือถือของเกสราอีกครั้ง นิ้วเรียวขาวสะอาดเลื่อนลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีรูปผู้ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น

หล่อนรับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงระรัวคร่อมจังหวะ และก็ไม่อาจจะละสายตาจากภาพของผู้ชายที่กำลังฉีกยิ้มกว้างให้กับเด็กน้อยสองคนได้เลย

เกสราเห็นหลานสาวจ้องรูปของชาร์ลีอย่างตกตะลึง ก็ระบายยิ้มพึงพอใจออกมา

“นั่นแหละผู้ชายคนที่อาอยากให้เธอไปร่วมคัดเลือกเป็นเจ้าสาวของเขาน่ะ หล่อใช่ไหมล่ะ”

“เอ่อ... ค่ะ...”

“ผู้หญิงทั่วทั้งโลกต่างต้องการเป็นเจ้าสาวของผู้ชายคนนี้ แต่จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้แต่งงานกับเขา ซึ่งอาก็หวังว่าจะเป็นเธอนะ ช้องนาง...”

“นางไม่ได้เพียบพร้อมขนาดที่ผู้ชายจะเลือกหยิบขึ้นมาไว้ข้างกายหรอกค่ะ”

“อย่าตีค่าตัวเองต่ำอย่างนั้นสิ เธอเกิดในตระกูลผู้ดี ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี เรียนโรงเรียนที่ดี และไม่เคยมีเรื่องผู้ชายให้ด่างพร้อยมาก่อน นี่แหละคืออาวุธสำคัญของเธอ”

แม้เกสราจะพูดแบบนี้ และถึงแม้ว่าหล่อนจะตกหลุมรักผู้ชายในรูปอย่างคาดไม่ถึงตั้งแต่เห็นครั้งแรก แต่หล่อนก็ยังลังเลกับทางเลือกตรงหน้าเหลือเกิน

“นาง... ขอเวลาตัดสินใจก่อนได้ไหมคะอาเกส”

“ได้สิ อาจะรอฟังคำตอบจากเธอในวันพรุ่งนี้นะ”

หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง รู้สึกสับสนไปหมดทั้งหัวใจ แต่กระนั้นก็ตอบรับเกสราออกไป

“ค่ะ”

อาแท้ๆ ของหล่อนระบายยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะยื่นมือมาดึงโทรศัพท์มือถือของตนเองคืนไป

“หวังว่าเธอจะไม่ทำให้อา และทุกคนที่นี่ผิดหวังนะ อ้อ... แล้วอย่าลืมล่ะว่าพ่อของเธอจะได้รับการบำบัดและกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งหากเธอตอบตกลง”

“แล้วถ้าเขาไม่เลือกนางล่ะคะ อาเกสยังจะรักษาคำสัญญาที่ให้เอาไว้กับนางหรือเปล่า”

เกสรามองหน้าหลานสาวนิ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยความมั่นใจ

“หน้าที่ของเธอ คือทำยังไงก็ได้ให้เขาเลือกเธอ”

“แต่นาง...”

“และอาก็มั่นใจว่าเด็กฉลาดๆ อย่างเธอจะต้องทำได้อย่างแน่นอน”

หล่อนทำได้แค่นั่งงงอยู่ในดงป่าท้อ ในขณะที่เกสราลุกขึ้นยืน และเอ่ยขึ้น

“อาออกไปสมาคมก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้อาจะมาเอาคำตอบจากเธอ ช้องนาง”

เกสราเดินจากไปแล้ว ในขณะที่หล่อนนั่งนิ่งเงียบ ในหัวเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย

หลังจากนั่งคิดทบทวนข้อเสนอของเกสราอยู่พักใหญ่ ช้องนางก็ตัดสินใจที่จะเดินกลับห้องพักของตนเองเพื่อนำเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาใส่ตู้ให้เรียบร้อย แต่ในระหว่างที่เดินอยู่นั้น เสียงของตกแตกในห้องของบิดาก็ดังขึ้น

เพล้งงงง!

หล่อนหันขวับไปมองบานประตูไม้ ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปภายในห้องของบิดาโดยไม่รั้งรอ

“พ่อ...!”

เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องของบิดาก็พบว่าท่านนั่งอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยเศษขวดเหล้าที่แตกละเอียด มือของท่านหยิบเศษขวดที่แหลมคมชิ้นหนึ่งขึ้นมาถือเอาไว้ และพึมพำอะไรบางอย่างไม่ต่างจากคนเสียสติ

“พ่อคะ... พ่อ...”

หล่อนพยายามรวบรวมสติของตนเองโดยเร็ว ก่อนจะค่อยๆ ทรุดกายลงนั่งคุกเข่าใกล้ๆ ท่าน

พ่อช้อนตามองหล่อน ดวงตาของท่านมีน้ำตาและเลื่อนลอยไร้จุดหมาย หล่อนรู้ทันทีเลยว่าควรจะตอบเช่นไรกับเกสรา

พ่อต้องได้รับการบำบัดรักษาอย่างเร่งด่วน!

“พ่อคะ... ส่งเศษแก้วให้นางนะคะ”

พ่อของหล่อนทำท่าจะส่งให้ แต่สักพักก็ดึงกลับไปใหม่ และกำเศษขวดแก้วนั้นแน่นขึ้นจนหล่อนเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากอุ้งมือของท่าน

“พ่อคะ... พ่อส่งมันให้นางนะคะ อย่ากำมันแน่นแบบนั้น พ่อ... พ่อคะ...”

น้ำตาของหล่อนไหลรินออกมาด้วยความเวทนาในสภาพของบิดา แต่ท่านกลับไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมาเลยแม้แต่ความเจ็บปวดบาดแผล

“นา... ผมคิดถึงคุณ... นา...”

พ่อพึมพำคร่ำครวญถึงมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของหล่อน น้ำตาของพ่อค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม

“พ่อจ๋า... พ่อ... พ่ออย่าทำแบบนี้เลยค่ะ อย่าทำร้ายตัวเองเลย แม่มองอยู่บนฟ้า... แม่คงไม่มีความสุขหรอกถ้าเห็นพ่อทำแบบนี้ เชื่อนางนะคะพ่อ...”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป